ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์
ประธานกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย
กรรมการสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง
รักษาราชการแทน
อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง
e-mail : president@rumail.ru.ac.th

 

อ.ดร.ชาคริต สกุลอิสริยาภรณ์
รธก.ฝ่ายวิทยบริการ จ.บุรีรัมย์
e-mail : vp-buriram@rumail.ru.ac.th


 

ประวัติมหาวิทยาลัยรามคำแหง                                             

- รู้จักอภัย ตั้งใจศึกษา

“สร้างความรู้สู่สากล สร้างคนคู่คุณธรรม”

- เตรียมคนเพื่อเตรียมงาน

  มหาวิทยาลัยรามคำแหงยุคก่อตั้ง

- ศ.ดร.ศักดิ์ ผาสุขนิรันต์ กับตลาดวิชา

- มหาวิทยาลัยของประชาชน

- รำลึกถึง ศ.ดร.ศักดิ์ ผาสุขนิรันต์

- วันสำคัญของมหาวิทยาลัยยุคก่อตั้ง

          นักศึกษาส่วนภูมิภาค สามารถย้ายศูนย์สอบได้ภายใน  28 ศูนย์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้ แต่ไม่สามารถย้ายไปศูนย์สอบที่กรุงเทพฯ (ทั้งราม 1 และราม 2 ได้)

          ดังนั้น เพื่อความสะดวกของนักศึกษา  มหาวิทยาลัยจึงเปิดโอกาสให้นักศึกษาย้ายศูนย์สอบได้ดังนี้

1.)  ย้ายศูนย์สอบพร้อมการลงทะเบียนเรียน
          เมื่อมหาวิทยาลัยเปิดให้มีการลงทะเบียนเรียนประจำแต่ละภาคการศึกษานักศึกษาสามารถแจ้งรหัสศูนย์สอบ ลงใน ม.ร.34 (บัตรลงทะเบียนเรียน)  ซึ่งรหัสศูนย์สอบที่ระบุไว้นี้อาจจะเหมือนหรือแตกต่างกันในแต่ละภาคการศึกษาก็ได้ ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของนักศึกษาว่าจะเข้าสอบที่ศูนย์สอบใด  ทั้งนี้นักศึกษาต้องตรวจสอบความถูกต้องของรหัสศูนย์สอบเพราะถ้าเขียนศูนย์สอบผิดก็จะทำให้เอกสารการสอบทุกประเภทผิดไปด้วย

2.)  การย้ายศูนย์สอบหลังการลงทะเบียนเรียน  แต่ก่อนการสอบไล่ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า  2  สัปดาห์
          นักศึกษาที่ประสงค์จะย้ายศูนย์สอบหลังจากลงทะเบียนเรยนไปแล้ว  นักศึกษาจะต้องส่งจดหมายแจ้งความประสงค์ขอย้ายศูนย์สอบ  พร้อมสำเนาใบเสร็จรับเงินมายัง  "ฝ่ายจัดตารางสอบและกรรมการคุมสอบ" เพื่อดำเนินการย้ายศูนย์สอบให้แก่นักศึกษ

          การย้ายศูนย์สอบในกรณีนี้นักศึกษาจะต้องสอบที่นั่งเสริม  เนื่องจากมหาวิทยาลัยไม่สามารถจัดทำข้อมูลสำหรับสถานที่สอบแห่งใหม่ได้ทัน  เนื่องจากการจัดทำเอกสารการสอบไล่ทุกประเภท  จะจัดตามข้อมูลรหัสศูนย์สอบที่ระบุไว้ในการลงทะเบียนเรียนแต่มหาวิทยาลัยจะมีการแก้ไขเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้อง  ดังนี้
          2.1  ประทับตรา "ย้ายมาจากสศูนย์สอบ.................................." ในบัญชีเซ็นชื่อเข้าสอบของศูนย์สอบเดิมเพื่อแสดงว่า นักศึกษาได้ย้ายสถานที่สอบไปสอบที่ศูนย์สอบใด
          2.2  ประทับตรายาง "ย้ายไปสอบศูนย์.................................." ลงในตารางแถว - ที่นั่งสอบและบัญชีเซ็นชื่อเข้าสอบของกระบวนวิชาที่นักศึกษาจะย้ายมาสอบศูนย์สอบใหม่  โดยสถานที่สอบใหม่จะจัดสอบเสริมให้แก่นักศึกษา
          2.3  มหาวิทยาลัยจะมีหนังสือแจ้งรายละเอียดของสถานที่สอบแห่งใหม่ไปให้นักศึกษาทราบ
ดังนั้น ในกรณีที่นักศึกษาแจ้งย้ายศูนย์สอบ  และมีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ไปจากที่เคยแจ้งไว้  นักศึกาาจะต้องแจ้งขอแก้ไขข้อมูลที่อยู่ให้ถูกต้องด้วย  มิฉะนั้นการส่งเอกสารการสอบไล่ไปให้นักศึกษาจะไม่ถูกต้อง  และทำให้นักศึกษาไม่ได้รับเอกสารจากมหาวิทยาลัย
          2.4  มหาวิทยาลัยจะดำเนินการแจ้งผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดหาข้อสอบและเอกสารการสอบประเภทต่าง ๆ ที่ต้องจัดทำเพิ่มเติมใหม่

3.)  การแจ้งย้ายศูนย์สอบก่อนการสอบไล่น้อยกว่า  2  สัปดาห์  หรือในระหว่างการสอบไล่
          ในกรณีที่นักศึกษาแจ้งย้ายศูนย์สอบกระชั้นชิด  หรือไม่ได้แจ้งขอย้ายสอบมายัง  ฝ่ายจัดตารางสอบและกรรมการคุมสอบทำให้นักศึกษาไม่ได้รับหนังสือแจ้งเรื่องสถานที่สอบใหม่  ในกรณีดังกล่าวให้นักศึกษาปฏิบัติดังนี้
          3.1  ให้นักศึกษาไปติดต่อผู้ประสานงานการสอบไล่ประจำศูนย์สอบที่นักศึกษาประสงค์จะย้ายไปเข้าสอบเพื่อแจ้งการย้ายศูนย์สอบดังกล่าว
          3.2  นักศึกษาจะต้องกรอกแบบฟอร์ม  ม.ร.ศ.10 (แบบขออนุมัติย้ายศูนย์สอบของนักศึกษาส่วนภูมิภาค) พร้อมแนบสำเนาใบเสร็จรับเงิน
          3.3  นักศึกษาต้องตรวจหาห้องสอบจากตารางสอบไล่  ประจำศูนย์สอบนั้น ๆ
          3.4  การเซ็นชื่อเข้าสอบ  นักศึกษาจะต้องเซ็นชื่อเข้าสอบที่กรรมการคุมสอบประจำห้องสอบได้แทรกชื่อสอบไว้ให้โดยนักศึกษาต้องตรวจสอบว่าตรงกับกระบวนวิชาที่นักศึกษาได้ลงทะเบียนเรียนไว้หรือไม่

          สำหรับการย้ายศูนย์สอบในกรณีที่  3  นี้  อาจจะมีปัญหาในกรณีที่ศูนย์สอบที่นักศึกษาย้ายไปเข้าสอบไม่มีการจัดสอบกระบวนวิชาที่นักศึกษาประสงค์จะเข้าสอบอยู่  ทำให้ไม่มีข้อสอบของกระบวนวิชาดังกล่าวอยู่ที่ศูนย์นั้น ๆ ซึ่งจะทำให้นักศึกษาไม่สามารถเข้าสอบกระบวนวิชาที่ต้องการได้

          ดังนั้น  ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นนักศึกษาควรจะเข้าสอบที่ศูนย์สอบซึ่งระบุไว้พร้อมการลงทะเบียนเรียน